วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Carbon Footprint

ครคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หมายถึง ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่กา
รได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การประกอบชิ้นส่วน การใช้งานและการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน โดคาภคได้ทราบว่า ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ คาดกันว่าคาร์บอนฟุตพริ้
คาร์บอนฟุตพริ้นท์คืออะไร ?
คาร์บอนฟุตพริ้นท์ หมายถึง ปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยอาจคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ บริการ หรือหน่วยงาน

ทำไมต้องคำนวณขนาดคาร์บอนฟุตพริ้นท์
ข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ จะทำให้ผู้บริโภคทราบถึงปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมประจำวัน และกระตุ้นให้เกิดความตระหนักในการเลือกซื้อสินค้าและเปลี่ยนแปลงวิธีการบริโภค เพื่อช่วยลดปัญหาโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ทำไมขนาดคาร์บอนฟุตพริ้นท์จึงคำนวณเป็นปริมาณของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า?
ในการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ กำหนดให้ค่าศักยภาพการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็น
หนึ่ง และมีการคำนวณค่าศักยภาพการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของก๊าซเรือนกระจกอื่นๆเทียบเท่ากับค่าศักยภาพการ
ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เช่น ก๊าซมีเทน มีค่าศักยภาพการก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพ
อากาศเป็น 25 เท่าของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

จะทราบได้อย่างไรว่าขนาดคาร์บอนฟุตพริ้นท์สูงหรือต่ำ?
ไม่มีค่ามาตรฐานขนาดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่จะบ่งชี้ว่าสูงหรือต่ำ นอกจากจะนำไปเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อคนต่อปีในระดับประเทศหรือระดับโลก

หากต้องการเลือกซื้อสินค้าที่มีขนาดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำ จะสามารถทำได้อย่างไร?
ควรเลือกซื้อสินค้าที่มีฉลากคาร์บอนที่บอกขนาดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ต่ำกว่าผลิตภัณฑ์ทางเลือก เนื่องจากมีปริมาณการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำกว่า

 นท์จะช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย หลังจากที่หลายประเทศอผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นั้น เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ คาดกันว่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จะช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย หลังจากที่หลายประเทศได้มีการนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้แล้ว เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นต้น ได้มีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วยอนฟุตพริ้นท์ หมายถึง ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การประกอบชิ้นส่วน การใช้งานและการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน โดยคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่จะติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นั้น เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ คาดกันว่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จะช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย หลังจากที่หลายประเทศได้มีการนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้แล้ว เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นต้น ได้มีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วยในรูปของคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่จะติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นั้น เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ คาดกันว่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จะช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย หลังจากที่หลายประเทศได้มีการนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้แล้ว เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นต้น ได้มีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากต่างป คาร์บอนฟุตพริ้นท์ หมายถึง ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากผลิตภัณฑ์แต่ละหน่วย ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ การขนส่ง การประกอบชิ้นส่วน การใช้งานและการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังใช้งาน โดยคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดอ๊อกไซด์เทียบเท่า ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่จะติดบนสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ นั้น เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฎจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้น มีการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ คาดกันว่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์จะช่วยในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคและกระตุ้นให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีในการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย หลังจากที่หลายประเทศได้มีการนำคาร์บอนฟุตพริ้นท์มาใช้แล้ว เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา ญี่ปุ่นและเกาหลี เป็นต้น ได้มีการเรียกร้องให้สินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วยระเทศติดเครื่องหมายคาร์บอนฟุตพริ้นท์ด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น